คอลลาเจนจากพืช Plant Collagen ดียังไง?
คอลลาเจน (Collagen) คือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ทำหน้าที่คล้ายกาวเกาะยึดส่วนต่างๆ ในร่างกาย เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน เส้นผม กระดูกอ่อน ข้อต่อ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ รวมถึงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ซึ่งร่างกายมนุษย์ทุกคนสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ
แต่ยังสามารถหาได้จากแหล่งอาหารอื่นๆ ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย ทั้งคอลลาเจนจากพืชและจากสัตว์
คอลลาเจนจากสัตว์ มาจาก แหล่งอาหารและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ได้แก่ เนื้อปลา หนังปลา กระดูกอ่อนปลา เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมวัวต่างๆ ไข่ขาว กระดูกอ่อนหมู กระดูกอ่อนวัว กระดูกอ่อนไก่ เป็นต้น
คอลลาเจนจากพืช Plant Collagen มาจาก แหล่งอาหารเช่นผักและผลไม้บางชนิดที่มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนให้เราได้ การรับประทานผักผลไม้ ร่างกายก็จะได้สารอาหารที่มีประโยชน์หลายอย่างไปพร้อมกัน เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ อีกทั้งยังเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้แพ้อาหารทะเลหรือผลิตภัณฑ์คอลลาเจนจากสัตว์
แหล่งอาหารคอลลาเจนจากพืช ได้แก่
1. ผักผลไม้สีแดง
ผักหรือผลไม้ที่มีสีแดง ล้วนอุดมไปด้วยไลโคปีนซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ล เชอร์รี่ เบอร์รี่ มันฝรั่งแดง เป็นต้น ซึ่งช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มและขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. แครอท
ผักสีส้มซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ ที่มีประโยชน์ต่อสายตาและยังกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของอีลาสติน ทำให้ผิวไม่แห้งเกินไป ไม่เพียงเท่านั้นในแครอทยังมีสารฟอลคารินอลที่ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
3. ลูกพีช
ลูกพีช (peach) หรือ ลูกท้อ มีวิตามินเอ และ วิตามินซีสูง ทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและการเกิดเซลล์ผิวใหม่ จึงช่วยให้ผิวยืดหยุ่นตึงกระชับมากขึ้น
4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ผลไม้ตระกูลเบอร์รีล้วนอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ซึ่งสารอาหารชนิดนี้มีความสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจน หากรับประทานบ่อยๆ ก็จะช่วยเพิ่มความกระชับให้กับผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึงยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำแห่งวัยได้ด้วย
5. ผักใบเขียวเข้ม
ผักใบเขียวเข้มมีทั้งเส้นใยอาหาร สารชนิดต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างลูติน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและเรียบเนียน แถมยังไม่เหี่ยวย่นก่อนวัย
6. ถั่วและธัญพืช
ไม่ว่าจะเป็น ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วลิสง และธัญพืชอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นพืชที่อุดมไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก จึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน
7. ถั่วเหลือง
ถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ไอโซฟลาโวน โดยมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่ช่วยในการซ่อมแซมผิวพรรณให้แข็งแรงขึ้น
8. อะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งช่วยป้องกันการสลายของคอลลาเจนในร่างกาย นอกจากนี้อะโวคาโดยังมีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อผิว รวมถึงน้ำมันอะโวคาโดนั้นช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน และสามารถต้านอนุมูลอิสระ
9. เห็ด
เห็ดชนิดต่างๆ มีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในผิวได้ดีมากๆ เนื่องจากเห็ดอุดมไปด้วยโปรตีนและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารเหล่านี้ช่วยในกระบวนการเสริมสร้างคอลลาเจนในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
10. กระเทียม
กระเทียมสามารถเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวได้ เพราะมันอุดมไปด้วย ซัลเฟอร์ (Sulfer), กรดไลโปอิก (Lipoic Acid) และกรดอะมิโนทอรีน (Taurine) ซึ่งเป็นตัวช่วยเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิวหนัง
11. สาหร่ายทะเล
สาหร่ายทะเลจัดเป็นพืชที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวได้อย่างน่าสนใจ เพราะในสาหร่ายอุดมไปด้วยสารอาหารที่ชื่อว่า ไฮยาลูรอนิก ที่มีส่วนช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณ ช่วยให้ผิวเต่งตึงอิ่มน้ำ ชะลอการเกิดริ้วรอย
12. น้ำมะพร้าว
ในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ที่จะทำให้ผิวกระชับ ยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย จึงช่วยทำให้ผิวพรรณของเราแลดูผ่องใสขึ้น
คอลลาเจน มีบทบาทสำคัญในการเป็นสารตั้งต้นซึ่งทําหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่างๆของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นอัตราการสังเคราะห์คอลลาเจนกลับลดลง
คอลลาเจนจากพืช Plant Collagen จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีภูมิแพ้ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนจากสัตว์ ที่จะช่วยให้ผิวพรรณของเราเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น รวมถึงลดการเสื่อมของไขข้อเมื่อเราอายุมากขึ้น