Superfood สุดยอดอาหารอุดมคุณค่า

Superfood สุดยอดอาหารอุดมคุณค่า

"Superfood" สุดยอดอาหารอุดมคุณค่า คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด

Superfood อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้ง โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระ มีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) สารอาหารที่พบได้เฉพาะในพืช ที่มีสรรพคุณช่วยยับยั้งหรือต่อต้านการเกิดโรคบางชนิดได้

การรับประทานอาหารประเภทนี้จึงช่วยบำรุงสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและทำให้มีอายุยืนยาวขึ้น


อาหารประเภทไหนถึงเรียกว่าเป็นสุดยอดอาหาร Superfoods ?

จริงๆ แล้วไม่ได้มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขตายตัวกำหนดว่าอาหารแบบไหนถึงจะเป็น Superfood ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นพืช อย่างผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ นมและเนื้อสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อปลาแซลมอน ก็จัดว่าเป็น Superfood ด้วยเช่นกัน

จุดที่สำคัญอีกอย่าง คือ อาหารเกือบทุกชนิดที่ถูกจัดว่าเป็น Superfood มักจะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ด้วย ซึ่งแต่ละชนิดก็มีสารอาหารและคุณประโยชน์แตกต่างกันออกไป เช่น


ไข่

เป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง เพราะมีโปรตีนและสารอาหารสำคัญอื่นๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี ธาตุเหล็ก โคลีน ฟอสฟอรัส เป็นต้น นอกจากนี้ภายในไข่ยังมีลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องสุขภาพดวงตาและประสิทธิภาพในการมองเห็นด้วย

แซลมอน

ปลาทะเลที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อย่าง โปรตีน ไขมันดี วิตามินบี โพแทสเซียม ซีลีเนียม และโอเมก้า 3 ซึ่งดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก การรับประทานปลาแซลมอนช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดการอักเสบ และลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจได้อีกด้วย

โยเกิร์ต

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม มีคุณค่าสารอาหารหลากหลาย ทั้งแคลเซียม วิตามินบี ฟอสฟอรัส วิตามินดี และมีแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายอีกหลายชนิด การรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย รวมทั้งช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด

พืชตระกูลถั่วและเมล็ดพืช

พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา จะมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ให้โปรตีนสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ลดความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอล มีใยอาหารสูง ทำให้รู้สึกอิ่มท้องนาน ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช อย่างเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง เมล็ดเจีย เมล็ดอัลมอนด์ มีโปรตีนและไขมันดีรวมอยู่ด้วย มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจ

ธัญพืช

ธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เป็นต้น อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ จมูกข้าวเป็นแหล่งของไขมันดี วิตามินบี วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ หรือในเมล็ดข้าวก็เป็นแหล่งของโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และวิตามิน  การรับประทานธัญพืชช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งบางชนิดได้

ผักใบเขียว

พืชผักที่มีใบสีเขียวเข้ม อย่างผักกาดหอม ปวยเล้ง หรือคะน้า มีสารอาหารเป็นประโยชน์หลายชนิด ทั้งแคลเซียม ใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินซี โฟเลต เหล็ก สังกะสี และแมกนีเซียม ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ผักที่มีใบสีเขียวเข้มยังมีสารต้านการอักเสบอย่างแคโรทีนอยด์ในปริมาณสูงช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิดได้

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ หรือแครนเบอรรี่ รวมถึงผลเบอร์รี่ชนิดอื่นๆ เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารสูงทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการอักเสบต่างๆ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายได้เป็นอย่างดี

ชาเขียว

ชาเขียวมีสรรพคุณทางยามากมาย เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดี นอกจากนี้ในชาเขียวยังมีสาร EGCG ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคมะเร็งได้ สารคาเทชินและคาเฟอีนในชาเขียวนั้นเร่งการเผาผลาญในร่างกายช่วยควบคุมน้ำหนักได้

อะโวคาโด

เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงเช่นกัน โดยมีทั้งใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด รวมถึงยังมีกรดโอเลอิกซึ่งเป็นไขมันดีชนิดหนึ่งที่อาจช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ การรับประทานอะโวคาโดช่วยลดความเสี่ยงต่อกลุ่มอาการอ้วนลงพุง โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ  

น้ำมันมะกอก

ในน้ำมันมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวและสารโพลีฟีนอลอยู่ในปริมาณมาก รวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินอีและวิตามินเคที่มีส่วนช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระด้วย ดังนั้น การเพิ่มน้ำมันมะกอกลงในมื้ออาหารอาจช่วยลดการอักเสบและลดความเสี่ยงต่อโรคบางชนิดอย่างโรคเบาหวานและโรคหัวใจ

ถึงแม้ว่า Superfood จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมว่าเราต้องเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสม ถ้าหากว่าทานในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นจากที่มีประโยชน์กับร่างกาย อาจจะเกิดผลเสียแทนได้ และที่สำคัญต้องเลือกทานอาหารให้หลากหลายและต้องครบทั้ง 5 หมู่ด้วย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้